รัฐบาลทหารพม่าโหดร้าย รัฐบาลทหารไทยก็ไร้ยางอาย

All that is necessary for the triumph of evil is that good men do nothing. – Edmund Burke

มิคสัญญีในพม่า

เพื่อนส่งลิ้งก์ข่าวนี้มาให้อ่าน อ่านแล้วก็ทนไม่ได้ ขอระบายความในใจไว้ตรงนี้ เพราะตอนนี้รู้สึกแย่มากๆ ที่รัฐบาลทหารพม่ากำลังทำร้ายพระและประชาชนของประเทศตัวเองอย่างเหี้ยมโหด แต่รัฐบาลไทยกลับวางเฉย แถม ประธาน คมช. ก็ยังให้ข่าวที่ “ส่อสันดานเผด็จการ” แบบน่าเกลียดมากๆ

มิคสัญญีที่กำลังเกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่เป็น “กิจการภายใน” ของพม่า แต่เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติของพระและประชาชน ที่วิญญูชนทุกคนทั่วโลกที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยควรร่วมกันสนับสนุน และรัฐบาลทั่วโลกในประเทศที่อ้างว่าตัวเองเป็น “ประชาธิปไตย” ก็ควรเลิก “ปากว่าตาขยิบ” ได้แล้ว โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น ไทย และสิงคโปร์ ที่ “หากิน” อย่างไร้ยางอายและไร้มนุษยธรรมกับทรัพยากรธรรมชาติของพม่าในทางที่ทำให้รัฐบาลทหารร่ำรวยอยู่กลุ่มเดียว แต่ประชาชนตาดำๆ ถูกทหารกดขี่ข่มเหงตลอดมา

ความเห็นของผู้เขียนที่มีต่อข่าว แสดงเป็นฟอนต์สีฟ้าในข้อความข้างล่างนี้ ตอนนี้กำลังแปลข่าวนี้เป็นภาษาอังกฤษอยู่ เมื่อแปลเสร็จแล้วจะโพสลงบล็อกนี้ด้วย

……

“บิ๊กบัง” เชื่อเหตุวุ่นวายรัฐบาลทหารพม่า ไม่บานปลาย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 กันยายน 2550 19:02 น.

ปธ.คมช. เชื่อรัฐบาลทหารพม่า จะควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของพระสงฆ์ได้ และไม่น่าจะเกิดการอพยพหนีเข้าฝั่งไทย ชี้เป็นเรื่องกิจการภายในประเทศ โดยมีมิตรประเทศมหาอำนาจ อย่างจีน เกาหลี คอยให้ความช่วยเหลืออยู่

วันนี้ (26 ก.ย.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พม่าใช้กำลังสลายการชุมนุมว่า การสลายการชุมนุมครั้งนี้ รัฐบาลพม่าไม่ได้ใช้กำลังทหาร แต่ใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุม ถือเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ที่ทุกประเทศดำเนินการแบบนี้ ทหารจะต้องถอยออกไปให้ตำรวจจัดการ แต่วิธีการจะเป็นอย่างไร เป็นเทคนิคดูแลของแต่ละประเทศ…

ไม่เห็นจะมีตำรวจตรงไหนออกมาสลายการชุมนุม ขณะที่เขียนอยู่นี้ทหารพม่าออกมายิงพระและประชาชน ติดกันเป็นวันที่สองแล้วหลังจากประกาศเคอร์ฟิว ข่าวล่าสุดบอกว่ามีพระถูกจับกุมไปแล้วกว่า 100 รูป และมรณภาพไปแล้ว 4 รูป ทหารถึงขนาดยกพลบุกเข้าไปในวัด 3 แห่งด้วย การกราดยิงเข้าไปในฝูงชนนี่นับว่าเป็น “เทคนิคการดูแล” ที่ประเทศไทยไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่ควรทนเห็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายไปเรื่อยๆ หรือ?!?


All that is necessary for the triumph of evil is that good men do nothing. – Edmund Burke

มิคสัญญีในพม่า

เพื่อนส่งลิ้งก์ข่าวนี้มาให้อ่าน อ่านแล้วก็ทนไม่ได้ ขอระบายความในใจไว้ตรงนี้ เพราะตอนนี้รู้สึกแย่มากๆ ที่รัฐบาลทหารพม่ากำลังทำร้ายพระและประชาชนของประเทศตัวเองอย่างเหี้ยมโหด แต่รัฐบาลไทยกลับวางเฉย แถม ประธาน คมช. ก็ยังให้ข่าวที่ “ส่อสันดานเผด็จการ” แบบน่าเกลียดมากๆ

มิคสัญญีที่กำลังเกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่เป็น “กิจการภายใน” ของพม่า แต่เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติของพระและประชาชน ที่วิญญูชนทุกคนทั่วโลกที่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยควรร่วมกันสนับสนุน และรัฐบาลทั่วโลกในประเทศที่อ้างว่าตัวเองเป็น “ประชาธิปไตย” ก็ควรเลิก “ปากว่าตาขยิบ” ได้แล้ว โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น ไทย และสิงคโปร์ ที่ “หากิน” อย่างไร้ยางอายและไร้มนุษยธรรมกับทรัพยากรธรรมชาติของพม่าในทางที่ทำให้รัฐบาลทหารร่ำรวยอยู่กลุ่มเดียว แต่ประชาชนตาดำๆ ถูกทหารกดขี่ข่มเหงตลอดมา

ความเห็นของผู้เขียนที่มีต่อข่าว แสดงเป็นฟอนต์สีฟ้าในข้อความข้างล่างนี้ ตอนนี้กำลังแปลข่าวนี้เป็นภาษาอังกฤษอยู่ เมื่อแปลเสร็จแล้วจะโพสลงบล็อกนี้ด้วย

……

“บิ๊กบัง” เชื่อเหตุวุ่นวายรัฐบาลทหารพม่า ไม่บานปลาย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 กันยายน 2550 19:02 น.

ปธ.คมช. เชื่อรัฐบาลทหารพม่า จะควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของพระสงฆ์ได้ และไม่น่าจะเกิดการอพยพหนีเข้าฝั่งไทย ชี้เป็นเรื่องกิจการภายในประเทศ โดยมีมิตรประเทศมหาอำนาจ อย่างจีน เกาหลี คอยให้ความช่วยเหลืออยู่

วันนี้ (26 ก.ย.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พม่าใช้กำลังสลายการชุมนุมว่า การสลายการชุมนุมครั้งนี้ รัฐบาลพม่าไม่ได้ใช้กำลังทหาร แต่ใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุม ถือเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ที่ทุกประเทศดำเนินการแบบนี้ ทหารจะต้องถอยออกไปให้ตำรวจจัดการ แต่วิธีการจะเป็นอย่างไร เป็นเทคนิคดูแลของแต่ละประเทศ…

ไม่เห็นจะมีตำรวจตรงไหนออกมาสลายการชุมนุม ขณะที่เขียนอยู่นี้ทหารพม่าออกมายิงพระและประชาชน ติดกันเป็นวันที่สองแล้วหลังจากประกาศเคอร์ฟิว ข่าวล่าสุดบอกว่ามีพระถูกจับกุมไปแล้วกว่า 100 รูป และมรณภาพไปแล้ว 4 รูป ทหารถึงขนาดยกพลบุกเข้าไปในวัด 3 แห่งด้วย การกราดยิงเข้าไปในฝูงชนนี่นับว่าเป็น “เทคนิคการดูแล” ที่ประเทศไทยไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่ควรทนเห็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายไปเรื่อยๆ หรือ?!?

อย่างไรก็ตาม คิดว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ยังไม่มีอะไรรุนแรง ยังควบคุมได้อยู่ ส่วนที่มีการใช้กำลังทำร้ายพระสงฆ์นั้น จะดูภาพแล้วตอบคำถามคงไม่ได้ เพราะอย่างกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย บางครั้งประชาชนก็ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็อาจปกป้องตัวเอง มันเป็นภาพทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องภายในของพม่า

เออ สงสัยจะสายตาสั้น อยากรู้ว่าใครดูภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้วคิดว่าทหารพม่ากำลัง “ปกป้องตัวเอง” จากความรุนแรงที่ “ประชาชนเป็นผู้ก่อ” บ้าง?!? ถ้า คมช. คิดอย่างนั้นจริงๆ ก็น่าจะไปเปลี่ยนหน่วยงานข่าวกรองเสียใหม่ หรือไม่ก็หัดอ่านข่าวจากสำนักที่เชื่อถือได้ และเสียงร้องขอความช่วยเหลือโดยตรงจากประชาชนชาวพม่า ดูบ้าง

เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าอาจจะมีคนพม่าอพยพเข้ามาในประเทศไทย ประธาน คมช. กล่าวว่าสถานการณ์อย่างนี้ ไม่น่ามีผลกระทบ บริเวณตามแนวชายแดนทุกอย่างน่าจะเป็นปกติ เว้นแต่ว่าทางการพม่าจะประกาศเคอร์ฟิว และสั่งปิดชายแดน ซึ่งก็เป็นแนวทางปฏิบัติที่พม่าสามารถดำเนินการได้ระดับเหตุการณ์ขณะนี้ ไม่น่าจะถึงขั้นนั้น เพราะเป็นการเคลื่อนไหวชุมนุมธรรมดา ยังไม่มีการปราบปรามทางการเมือง

สงสัยถ้ารัฐบาลทหารพม่าสั่งปิดชายแดนขึ้นมาจริงๆ สิ่งเดียวที่รัฐบาลไทยจะออกมาประกาศก็คือ ตัวเลขประมาณการ “ความเสียหายทางธุรกิจ” จากการปิดตลาดชายแดนไทย-พม่าชั่วคราว แต่คงจะปิดปากเงียบเกี่ยวกับการฆาตกรรมประชาชนต่อไป ทุเรศจริงๆ ประเทศนี้ :/

ส่วนที่มองว่า พระสงฆ์ถือเป็นสถาบันที่คนพม่าให้ความเคารพ และต้องถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้าย ประชาชนอาจเกิดอารมณ์ร่วม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายได้นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ทางพม่าคงเข้าใจเรื่องนี้ ว่า เป็นกลยุทธ์ของผู้ชุมนุม รัฐบาลพม่าต้องหาวิธีการแก้ไข เพราะรู้อยู่แล้วว่า จะไปใช้ความรุนแรงกับพระไม่ได้ ต้องใช้ความนุ่มนวล ซึ่งจากที่ได้รับรายงานทราบว่า พม่าได้แก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา โดยให้พระผู้ใหญ่เข้าไปช่วยเจรจาเพื่อยุติปัญหามาแล้ว

อืม พูดยังกับว่าประชาชนพม่า “ใช้” พระเป็น “กลยุทธ์” ในการชุมนุม แต่ทุกข่าวที่ออกมา รวมทั้งบล็อกเกอร์ในพม่าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพระสงฆ์เป็นผู้นำในการเดินขบวนประท้วงครั้งนี้ โดยมีชนวนมาจากการที่ทหารใช้กำลังสลายการประท้วงรัฐบาลที่ประกาศขึ้นราคาน้ำมัน 2 เท่า ที่เมืองพาโกกุ เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้พระ 3 รูปได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นพระสงฆ์ก็เรียกร้องให้รัฐบาลทหารออกมาขอโทษ แต่รัฐบาลไม่สนใจ เป็นชนวนให้พระสงฆ์เริ่มคว่ำบาตรทหาร ออกมาประท้วงเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็เรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมประท้วงรัฐบาลด้วยกัน

ต่อข้อถามว่า นานาประเทศเริ่มกดดันพม่าจะมีผลอย่างไรหรือไม่ ประธาน คมช.กล่าวว่า พม่าคงไม่สนใจ เพราะไม่มีใครไปช่วยเหลือพม่าอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ช่วยเหลือและดูแลตัวเองมาตลอด ถือว่าภายนอกไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายใน ก็อยู่กันได้ และความจริงแล้ว พม่ามีมิตรประเทศให้ความช่วยเหลืออยู่หลายประเทศ เช่น จีน และ เกาหลี เพราะพม่าเป็นประเทศที่มีทรัพยากรจำนวนมาก มหาอำนาจหลายประเทศอยากเข้าไป เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพม่า มีหลายประเทศที่แอบปกป้องอยู่ เป็นความชาญฉลาดของมหาอำนาจบางประเทศ ซึ่งเราเป็นมิตรประเทศ หากเข้าไปเกี่ยวข้องก็อาจทำให้ความสัมพันธ์เสียหายได้

เออ ก็ดี ปล่อยให้มหาอำนาจอย่างจีนและเกาหลี “ปกป้อง” รัฐบาลเผด็จการทหารที่เป็นฆาตกรต่อไป แล้วก็รอดูทหารฆ่าพระและประชาชนต่อไปเรื่อยๆ ไทยเราช่างเป็น “ประเทศเพื่อนบ้าน” ที่น่ารักอะไรเช่นนี้