ร่วมคัดค้านการปิดเว็บไซด์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

เมื่อไหร่หนอ คปค. จะคิดได้เสียทีว่า two wrongs don’t make a right :/

อะไรที่ชอบด้วยกฎหมายก็ทำไป การอาัยัด ยึดทรัพย์ เปิดโปงคอร์รัปชั่นของนักการเมืองล้วนเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น แต่นั่นไม่ควรเป็น “ข้ออ้าง” ให้เรายอมให้ คปค. ย่ำยีสิทธิเสรีภาพของคนไทย โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

เพราะการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเสรีเท่านั้น ที่จะช่วยยกระดับวุฒิภาวะของสังคมในการอภิปรายประเด็นสาธารณะ

[แถลงการณ์ด้านล่างก็อปปี้จาก โอเพ่นออนไลน์]

ผู้เขียนบล็อกนี้ขอร่วมคัดค้านการปิดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน โดยกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549 ดังรายละเอียดที่ปรากฏในแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ ที่นำลงให้อ่านด้านล่างนี้

ท่านผู้อ่านสามารถร่วมลงชื่อคัดค้านการปิดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้ โดยส่งอีเมลไปที่ midnightuniv@gmail.com

……………………………

แถลงการณ์คัดค้านการปิดช่องทางการสื่อสารเสรี ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนถูกกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศปิดกั้น แต่ไม่ใช่เว็บไซต์แห่งแรกที่ถูกอำนาจรัฐประหารปิดกั้น หรือพยายามเข้าไปปั่นป่วน ปฏิกิริยาของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนต่อการรัฐประหารก็คือ แม้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างมักง่ายเช่นนี้ แต่ก็เห็นว่าสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้ นอกจากช่วยกันผลักดันให้ประเทศกลับสู่เส้นทางพัฒนาประชาธิปไตยโดยเร็ว

คปค. อ้างว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่กระบวนการทั้งร่างรัฐธรรมนูญใหม่และปฏิรูปการเมือง ตามที่ปรากฏในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว กลับเป็นกระบวนการที่ไม่เปิดให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างบริบูรณ์ อันเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปฏิรูปการเมืองที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่เพียงการถูกเลือกสรรเข้าไปนั่งในองค์กรร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ต้องหมายถึงโอกาสของการรับรู้และส่งผ่านความคิดเห็นกันอย่างอิสระเสรีด้วย ฉะนั้น บรรยากาศที่มีคณะทหารในนามของ คปค. คอยกำกับควบคุมอยู่เช่นนี้ จึงทำให้การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงเกิดขึ้นไม่ได้

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจึงแถลงข่าวคัดค้านแนวทางการปฏิรูปการเมือง ตามที่ระบุไว้ในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว และเสนอแนวทางอื่นซึ่งจะเปิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนกลับคืนมาให้สมบูรณ์ อันเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการปฏิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนอาศัยการกระทำเชิงสัญลักษณ์คือการฉีกธรรมนูญชั่วคราวดังกล่าว และทั้งหมดนี้ได้รายงานไว้ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

ในวันที่ ๒๙ กันยายน กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศได้ปิดกั้นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนทันที


เมื่อไหร่หนอ คปค. จะคิดได้เสียทีว่า two wrongs don’t make a right :/

อะไรที่ชอบด้วยกฎหมายก็ทำไป การอาัยัด ยึดทรัพย์ เปิดโปงคอร์รัปชั่นของนักการเมืองล้วนเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น แต่นั่นไม่ควรเป็น “ข้ออ้าง” ให้เรายอมให้ คปค. ย่ำยีสิทธิเสรีภาพของคนไทย โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

เพราะการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเสรีเท่านั้น ที่จะช่วยยกระดับวุฒิภาวะของสังคมในการอภิปรายประเด็นสาธารณะ

[แถลงการณ์ด้านล่างก็อปปี้จาก โอเพ่นออนไลน์]

ผู้เขียนบล็อกนี้ขอร่วมคัดค้านการปิดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน โดยกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549 ดังรายละเอียดที่ปรากฏในแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ ที่นำลงให้อ่านด้านล่างนี้

ท่านผู้อ่านสามารถร่วมลงชื่อคัดค้านการปิดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้ โดยส่งอีเมลไปที่ midnightuniv@gmail.com

……………………………

แถลงการณ์คัดค้านการปิดช่องทางการสื่อสารเสรี ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนถูกกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศปิดกั้น แต่ไม่ใช่เว็บไซต์แห่งแรกที่ถูกอำนาจรัฐประหารปิดกั้น หรือพยายามเข้าไปปั่นป่วน ปฏิกิริยาของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนต่อการรัฐประหารก็คือ แม้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างมักง่ายเช่นนี้ แต่ก็เห็นว่าสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้ นอกจากช่วยกันผลักดันให้ประเทศกลับสู่เส้นทางพัฒนาประชาธิปไตยโดยเร็ว

คปค. อ้างว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมือง ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่กระบวนการทั้งร่างรัฐธรรมนูญใหม่และปฏิรูปการเมือง ตามที่ปรากฏในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว กลับเป็นกระบวนการที่ไม่เปิดให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างบริบูรณ์ อันเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปฏิรูปการเมืองที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่เพียงการถูกเลือกสรรเข้าไปนั่งในองค์กรร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่ต้องหมายถึงโอกาสของการรับรู้และส่งผ่านความคิดเห็นกันอย่างอิสระเสรีด้วย ฉะนั้น บรรยากาศที่มีคณะทหารในนามของ คปค. คอยกำกับควบคุมอยู่เช่นนี้ จึงทำให้การปฏิรูปการเมืองที่แท้จริงเกิดขึ้นไม่ได้

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจึงแถลงข่าวคัดค้านแนวทางการปฏิรูปการเมือง ตามที่ระบุไว้ในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว และเสนอแนวทางอื่นซึ่งจะเปิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนกลับคืนมาให้สมบูรณ์ อันเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการปฏิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนอาศัยการกระทำเชิงสัญลักษณ์คือการฉีกธรรมนูญชั่วคราวดังกล่าว และทั้งหมดนี้ได้รายงานไว้ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

ในวันที่ ๒๙ กันยายน กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศได้ปิดกั้นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนทันที

การกระทำนี้ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนสามารถสื่อกับสังคมได้ใหม่ไม่ยากด้วยการแก้ปัญหาทางเทคนิค แท้จริงแล้ว เราได้รับข้อเสนอจากเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศหลายราย ให้มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนใช้พื้นที่ของเขาได้โดยเสรี แต่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเห็นว่า ประเด็นปัญหาไม่ได้อยู่ที่พื้นที่สาธารณะมีหรือไม่มีในทางเทคโนโลยี แต่อยู่ที่ว่าพื้นที่สาธารณะถูกอำนาจรัฐประหารที่อ้างว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองปิดกั้น ฉะนั้น จึงจำเป็นที่พวกเราในประเทศที่จะต้องร่วมกันต่อสู้กับอำนาจที่ขาดความชอบธรรมนี้ร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะหลบไปหาพื้นที่ใหม่

ดังที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้แถลงข่าวเตือนไว้แล้วว่า การปฏิรูปการเมืองในบรรยากาศที่ขาดสิทธิเสรีภาพของประชาชนนั้น จะไม่เกิดผลเป็นจริงได้ การเที่ยวปิดเว็บไซต์ของฝ่ายที่มีความเห็นไม่สอดคล้องกับกลุ่มอำนาจรัฐประหารสะท้อนให้เห็นมาแต่ต้นว่า อำนาจนี้จะไม่อาจนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่เปิดโอกาสอันเท่าเทียมแก่คนทุกกลุ่มในสังคม หากอำนาจนี้จะสิ้นสุดลงโดยสันติในสังคมไทย จำเป็นที่สังคมไทยต้องไม่ยอมจำนน แต่ควรร่วมมือกันในการกดดันให้อำนาจนี้ ยุติการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในทันที

จริงอยู่ ในบรรยากาศแห่งเสรีภาพ ย่อมเป็นธรรมดาที่อาจมีผู้ใช้โอกาสนี้สำหรับการทำลายหรือขัดขวางการปฏิรูปการเมือง แต่ในสังคมที่มีสิทธิเสรีภาพสมบูรณ์ สังคมจะมีพลังในการต่อสู้กับความเท็จ ความหลอกลวง ที่กลุ่มผู้ขัดขวางการปฏิรูปการเมืองจะต้องใช้เป็นเครื่องมือในการดึงอำนาจกลับไปสู่กลุ่มนักการเมืองฉ้อฉลซึ่งเคยมีอำนาจมาก่อน ในทางตรงกันข้าม สังคมที่ถูกกำกับควบคุมการรับรู้ข่าวสารข้อมูลต่างหาก ที่เป็นสังคมอ่อนแอไม่อาจต่อสู้กับความเท็จความหลอกลวงของนักการเมืองได้

ตรงกันข้ามกับการเลือกปิดช่องทางการสื่อสาร โดยหาหลักเกณฑ์อะไรไม่ได้มากไปกว่ารู้สึกว่า ช่องทางเหล่านี้อาจไม่เป็นมิตรกับอำนาจรัฐประหาร การเปิดเสรีภาพอย่างไม่จำแนกระหว่างมิตรและศัตรู กลับเป็นกติกาที่แน่นอน คาดหวังได้จากทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ความไม่มีกติกาอันแน่นอนเป็นสิ่งที่การรัฐประหารและใช้อำนาจที่ขาดการตรวจสอบควบคุมทุกระบบอ่อนแอที่สุด ฉะนั้น การประกันสิทธิเสรีภาพการรับรู้ของประชาชนอย่างเท่าเทียมกันต่างหาก ที่จะเป็นพลังอันแท้จริงของคณะรัฐประหารซึ่งได้อำนาจมาโดยขาดความชอบธรรม

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

๓๐ กันยายน ๒๕๔๙

Statement of the Midnight University: “Opposing the Closure of Channels of Free Communication”

Beginning on Friday September 29th, the Midnight University’s website has been blocked by the Ministry of Information and Communication Technology (ICT), Thailand. However, ours was not the first one to be blocked or tampered with by the power of the Coup Council. The Midnight University’s considered reaction to the September 19th coup is strong disapproval of such a reckless solution to the nation’s political problems. Nonetheless, we also realize that it is too late to reverse it and the only way out is to lend a hand in pushing our country back onto the path of democratic development.

The Council for Democratic Reform (CDR) has claimed that this coup is the beginning of a political reform process which includes the drafting of a new constitution. And yet, the provisions concerning the drafting of a new constitution and political reform in the Provisional Constitution of the CDR do not allow the full and free exercise of political rights and civil liberties by the people, which is the key condition for a successful political reform. Popular participation does not simply mean being selected to sit in a constituent assembly, but also denotes the opportunity for mutual learning and free exchange of ideas. Therefore, an atmosphere of subjection and control by the military under the CDR will rule out any possibility of genuine political reform.

For that reason, the Midnight University held a press conference on September 28th, to oppose the political reform process as stipulated in the Provisional Constitution and propose an alternative that would allow for the full restitution of rights and liberties to the people. To get our point across, we performed a symbolic act of tearing up copies of the Provisional Constitution and posted a report of the said event on the Midnight University’s website.

Hence, the ICT’s immediate imposition of a blockage on our website.

Actually, it is not hard for the Midnight University to overcome this technical difficulty. We have indeed received various offers from foreign servers to host our website. Be that as it may, we are of the opinion that the problem of availability of a public space is not technical in nature, but essentially political. And it has arisen because the self-proclaimed “Council for Democratic Reform” has used its coup-begotten power to impose a blockage on public space. Therefore, we need to fight this illegitimate power together right here in this land rather than evade it and find a new public space elsewhere.

As the Midnight University has earlier warned, political reform couldn’t be realized in an atmosphere shorn of people’s rights and liberties. That the Coup Council has thoughtlessly closed down websites that expressed dissenting views on the coup shows that it is incapable of leading a political reform that is free and equally open to all. To bring this power to an end peacefully, Thai society must not submit to it. Instead, we should together pressure it to stop the violation of people’s rights and liberties at once.

It is true that, given freedom, there will be some who would exploit it to try to destroy or disrupt political reform. And yet, only the full exercise of rights and liberties can enlighten and empower a society to fight the lies and half-truths of corrupt politicians seeking a return to power. On the contrary, a society whose learning and communication is kept under tutelage will remain weak and unable to resist them.

In place of an arbitrary and selective censorship based on a subjective feeling of distrust and animosity of the censors, the complete and indiscriminate opening of all channels of communication will result in a free, fair and predictable rule of the game for all, thus rectifying the arbitrary, unchecked and uncontrolled exercise of power that is a major weakness of all coup-makers. By guaranteeing the equal rights and liberties of the people to information, the Coup Council will be able to tap into the real source of power far greater than whatever it can get from its illegitimate coup.

30 September 2006