เมื่อสิบแปดตุลามาบรรจบ
อีกคำรบครบปีที่ปลิวผ่าน
ก่อนความจำจะเลือนลับกับวันวาร
ก่อนสังขารเริ่มระโหยจะโรยรา
จดบันทึกทบทวนหวนรำลึก
ความรู้สึก-ความฝันที่ฟันฝ่า
สามสิบสี่ปีแล้วที่เกิดมา
โลกหนักกว่าก่อนเราสักเท่าไร
เคยเย่อหยิ่งยึดอัตตาว่ากูแน่
ไม่ยอมแพ้ไม่ยอมใครไม่เริ่มใหม่
ต่อเมื่อผ่านวัยเยาว์จึงเข้าใจ
ว่าเส้นชัยที่แท้แค่มายา
เคยภูมิใจในศักดิ์ของนักสู้
ต่อเมื่อค้นใจศัตรูจึงรู้ว่า
เรื่องถูก-ผิด / ดี-เลว ทุกเวลา
สำคัญน้อยกว่าเมตตาและปรานี
เคยคิดว่า “ค่า” คนวัดตัดสินได้
ว่าใครเหนือกว่าใครในศักดิ์ศรี
ต่อเมื่อถอดป้ายทิ้ง, ทั้ง “เลว”, “ดี”
จึงรู้ – ทุกชีวีค่าเท่ากัน
จะยืนหยัดแม้โดดเดี่ยวไม่เดียวดาย
เพื่อท้าทายผองอธรรมด้วยคำมั่น
หากหลงผิดคิดออกนอกครรลองครัน
ขอฟ้าจงลงทัณฑ์อย่าปรานี
จะเรียนรู้เพื่อสำเหนียกในความเขลา
รักลำเนาถิ่นไทยไม่หลีกหนี
จากนี้จนวันตายวายชีวี
จะพึงมีเท่าที่จะพึงเป็น.
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๐
หมายเหตุ: วรรค “จะพึงมีเท่าที่จะพึงเป็น” ลอกจากบทกลอนของคุณมนตรี ศรียงค์ กวีซีไรต์ประจำปี 2550 ด้วยจิตคารวะ