เมื่อวานได้รับเชิญให้ไปพูดในงาน WordCamp Bangkok 2008 ที่ TCDC เอ็มโพเรียม ในหัวข้อ “สื่อพลเมือง” ร่วมกับคุณกานต์และคุณเจริญชัยแห่ง Siam Intelligence Unit สนุกดี ได้เจอตัวจริงของบล็อกเกอร์หลายท่านที่เมื่อก่อน “รู้จัก” แต่ในเว็บ อย่างคุณ Patsonic, คุณเม่น และคุณปรเมศวร์ มินศิริ แห่งกระปุกดอทคอม ซึ่ง “น่ารัก” กว่าเว็บกระปุกตามที่เจ้าตัวยืนยันจริงๆ ด้วย 😉
[UPDATE 20/10: อ่านบทความฉบับเต็มของคุณเจริญชัยที่ไปพูดในงาน เรื่อง “Citizen Journalism: ไลฟ์สไตล์ใหม่แห่งศตวรรษที่ 21” ได้ที่หน้านี้ของ SIU ค่ะ ลีลาสมกับที่เป็นแฟนนิยายกำลังภายในผู้มีผลงานเป็นของตัวเองแล้ว :D]
เสียดายที่ผู้เขียนพูดมากไป(อีกแล้ว) และคอมพิวเตอร์ที่จะฉายสไลด์มีปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อย เลยมัวแต่พูดเรื่องที่หลายคนรู้อยู่แล้วไม่มากก็น้อย ไม่ได้แตะประเด็นที่อยากพูดถึงจริงๆ นั่นคือ ความเชื่อมโยงและบทบาทของสื่อพลเมืองในฐานะผู้เล่นคนสำคัญของ “สื่อสังคม” (social media) ซึ่งตอนนี้ Web 2.0 กำลังแปลงอินเทอร์เน็ตให้เป็นแบบนั้นอย่างรวดเร็ว (หมดยุคของ Web 1.0 ที่ผู้ชม “เสพ” ได้อย่างเดียวโดยไม่มีส่วนร่วมแล้ว) และความเชื่อมโยงระหว่าง “สื่อสังคม” กับแนวคิดเรื่อง “ภาคสาธารณะ” (The Commons) และบทบาทที่สำคัญของภาคนี้ในฐานะภาคส่วนใหม่ที่สามารถ “แข่งขัน” และ “ถ่วงดุล” กับภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กล่าวโดยสรุปคือ “ชุมชนเสมือน” อย่างอินเทอร์เน็ตอาจนับเป็น “ก้าวถัดไป” ของแนวคิด “ชุมชนนิยม” หรือ “ท้องถิ่นนิยม” ซึ่งมีพลังและศักยภาพมากกว่าชุมชนทางกายภาพในหลายแง่มุม และถ้าคิดให้ลึกและบริหารจัดการดีๆ ก็สามารถช่วยให้คนในชุมชนกายภาพมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจริงๆ ด้วย ดังเช่นตัวอย่างของ Echoupal ในอินเดีย หรือสิ่งที่ GeekCorps กำลังทำในโครงการทั่วโลก
ขอขอบคุณกระปุกดอทคอมที่จัดงานดีๆ อย่างนี้ และสำหรับมื้อเย็นที่อร่อยมาก ขอบคุณเพื่อนบล็อกเกอร์และผู้ฟังทุกท่านที่มาร่วมงาน เีสียดายที่ไปไม่ทันฟังวงสนทนาอื่นๆ แต่เชื่อว่าในอนาคตคงได้มีโอกาสเจอกันอีกค่ะ 🙂
ดาวน์โหลดสไลด์ืัทั้งหมด (รวมทั้งหน้าที่ไม่ได้พูด T_T) ได้จากที่นี่: PDF format (2.4MB), Powerpoint format (9.7MB) หรือดูออนไลน์ได้จากด้านล่างนี้
แถมท้ายด้วยสุดยอดวีดีโอสร้างแรงบันดาลใจที่คุณกานต์เปิดฉายในงาน – การแสดงโอเปราของ Paul Potts ผู้ชนะรายการ Britain’s Got Talent คนแรก อดีตเซลส์แมนที่ตอนนี้ดังเป็นพลุแตก มีอัลบั้มเป็นของตัวเองแล้ว ผู้เขียนคิดว่าร้องเพลงได้ “อิน” กว่าเซียนอย่าง Pavarotti เสียอีก 😀