เพิ่งกลับจากงานหนังสือ เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็เลิกนับไปแล้ว รู้แต่ว่าถ่อสังขารไปมันเกือบทุกวันก็ว่าได้ ณ จุดนี้ผู้เขียนซื้อหนังสือไปแล้ว 71 เล่ม โชคดีที่หลายเล่มในจำนวนนั้นลดราคาลงถูกกว่า 80 บาท ไม่อย่างนั้นคงหมดตัวแน่ๆ กว่าจะอ่านจบทุกเล่มก็คงถึงงานหนังสือครั้งใหม่ในเดือนตุลาคมพอดี 😛 ดูรูปบรรยากาศในงาน และบูธสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่ผู้เขียนไปอุดหนุนได้ที่ Flickr set หน้านี้
วันนี้เอาหนังสือที่ซื้อมาเกือบทั้งหมดมาเรียงกันเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก(ว่ากิเลสเราหนาขนาดไหน) เชิญคลิ้กที่รูปเพื่อดูชื่อหนังสือได้ตามสะดวก รูปนี้ขาดหนังสือบางเล่มที่ขนเอาไปไว้ในรถแล้ว (ไว้อ่านเวลารถติด) เช่น เรื่องตบตา รวบรวมบทความที่เขียนลงนิตยสาร ‘สารคดี’ โดย ปราบดา หยุ่น (สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น), ที่อื่น รวมเรื่องสั้นโดย กิตติพล สรัคคานนท์ ทีมงาน Underground Buleteen ผู้เขียน สถาปัตยกรรมแห่งการควบคุม หนึ่งในบทความชิ้นเยี่ยมในโอเพ่นออนไลน์ (สำนักพิมพ์หนังสือใต้ดิน/Shine), มังก้าซิน (MangaSin) หนังสือทำมือรวมการ์ตูนไทย โดย คุณ yerrman และเพื่อนนักเขียนการ์ตูนอีกหลายคน (ในงานมีวางขายที่บูธ Tomorrow Comics), การ์ตูนโตโต้ หัวแตงโม เล่ม 4, การ์ตูน hesheit เล่ม 9 และ 10, และวารสาร Freeform เล่มใหม่ (อืม ดูเหมือนว่าตอนนี้รถจะเต็มไปด้วยการ์ตูน…)
จากรูปจะเห็นชัดว่ากองหนังสือไม่ใช่วรรณกรรม (คือประเภทสารคดี ศาสนา วิชาการ ฯลฯ) ทางด้านซ้ายสูงกว่ากองหนังสือวรรณกรรมทางด้านขวากว่า 2 เท่า ทั้งๆ ที่เที่ยวนี้ตั้งใจว่าจะเน้นซื้อวรรณกรรมเป็นพิเศษ ซื้อหนังสือประเภทสารคดีให้น้อยลงกว่าเดิม แต่ก็ไม่เห็นหนังสือแนววรรณกรรมที่น่าซื้อเท่าไหร่ สงสัยวรรณกรรมไทยจะกำลังตกที่นั่งลำบากจริงๆ แถมกระแสนิยมนิยายแปลเกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ ก็ยังดูไม่ซาลงเลย วันก่อนมีคนเล่าให้ฟังว่า บูธของสำนักพิมพ์แจ่มใส เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือเกาหลีแปลเจ้าใหญ่ที่สุดในไทย ถึงกับเจอปัญหา โต๊ะหัก เพราะมีเด็กไปแย่งซื้อหนังสือกันมากเกินไป(!)
เพิ่งกลับจากงานหนังสือ เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็เลิกนับไปแล้ว รู้แต่ว่าถ่อสังขารไปมันเกือบทุกวันก็ว่าได้ ณ จุดนี้ผู้เขียนซื้อหนังสือไปแล้ว 71 เล่ม โชคดีที่หลายเล่มในจำนวนนั้นลดราคาลงถูกกว่า 80 บาท ไม่อย่างนั้นคงหมดตัวแน่ๆ กว่าจะอ่านจบทุกเล่มก็คงถึงงานหนังสือครั้งใหม่ในเดือนตุลาคมพอดี 😛 ดูรูปบรรยากาศในงาน และบูธสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่ผู้เขียนไปอุดหนุนได้ที่ Flickr set หน้านี้
วันนี้เอาหนังสือที่ซื้อมาเกือบทั้งหมดมาเรียงกันเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก(ว่ากิเลสเราหนาขนาดไหน) เชิญคลิ้กที่รูปเพื่อดูชื่อหนังสือได้ตามสะดวก รูปนี้ขาดหนังสือบางเล่มที่ขนเอาไปไว้ในรถแล้ว (ไว้อ่านเวลารถติด) เช่น เรื่องตบตา รวบรวมบทความที่เขียนลงนิตยสาร ‘สารคดี’ โดย ปราบดา หยุ่น (สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น), ที่อื่น รวมเรื่องสั้นโดย กิตติพล สรัคคานนท์ ทีมงาน Underground Buleteen ผู้เขียน สถาปัตยกรรมแห่งการควบคุม หนึ่งในบทความชิ้นเยี่ยมในโอเพ่นออนไลน์ (สำนักพิมพ์หนังสือใต้ดิน/Shine), มังก้าซิน (MangaSin) หนังสือทำมือรวมการ์ตูนไทย โดย คุณ yerrman และเพื่อนนักเขียนการ์ตูนอีกหลายคน (ในงานมีวางขายที่บูธ Tomorrow Comics), การ์ตูนโตโต้ หัวแตงโม เล่ม 4, การ์ตูน hesheit เล่ม 9 และ 10, และวารสาร Freeform เล่มใหม่ (อืม ดูเหมือนว่าตอนนี้รถจะเต็มไปด้วยการ์ตูน…)
จากรูปจะเห็นชัดว่ากองหนังสือไม่ใช่วรรณกรรม (คือประเภทสารคดี ศาสนา วิชาการ ฯลฯ) ทางด้านซ้ายสูงกว่ากองหนังสือวรรณกรรมทางด้านขวากว่า 2 เท่า ทั้งๆ ที่เที่ยวนี้ตั้งใจว่าจะเน้นซื้อวรรณกรรมเป็นพิเศษ ซื้อหนังสือประเภทสารคดีให้น้อยลงกว่าเดิม แต่ก็ไม่เห็นหนังสือแนววรรณกรรมที่น่าซื้อเท่าไหร่ สงสัยวรรณกรรมไทยจะกำลังตกที่นั่งลำบากจริงๆ แถมกระแสนิยมนิยายแปลเกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ ก็ยังดูไม่ซาลงเลย วันก่อนมีคนเล่าให้ฟังว่า บูธของสำนักพิมพ์แจ่มใส เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือเกาหลีแปลเจ้าใหญ่ที่สุดในไทย ถึงกับเจอปัญหา โต๊ะหัก เพราะมีเด็กไปแย่งซื้อหนังสือกันมากเกินไป(!)
ในบรรดาหนังสือทั้งหมดที่ผู้เขียน(กัดฟัน)ซื้อมา มีหลายเล่มที่ ‘ปลื้ม’ เป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้ เอาสาขาวรรณกรรมก่อน:
- คำตอบนั้นอยู่ที่ไหน? รวมเรื่องสั้นของ อัศนี พลจันทร์ (นายผี) และ คนแซ่หลี ครบชุด (เล่ม 1 และ 2) โดย อ.สุกิจ นิมมานเหมินท์ หนังสือสองเรื่องที่ตามหามานานหลายปีแล้ว เล่มแรกเจอที่บูธณัฐกานต์-สนพ. ศรีปัญญา เล่มหลังเจอที่บูธแสงเจริญ ร้านขายหนังสือมือสองยักษ์ใหญ่ที่มาออกบูธเป็นประจำทุกปี มานั่งหาหนังสือเก่าๆ ในงานหนังสือสบายกว่าไปยืนทนอากาศร้อนอบอ้าวที่แผงในตลาดนัดจตุจักรหลายเท่า 🙂
- ถ้ามีเพียง 100 คนบนโลกใบนี้ และ ลิ้นชักแห่งความทรงจำ (drawers of memory) ‘หนังสือเด็ก’ สองเล่มที่ผู้ใหญ่ควรอ่าน ซื้อที่บูธ สนพ. มูลนิธิเด็ก
- ฉลาม นวนิยายน่าอ่านโดย ณัฐสวาสดิ์ หมั้นทรัพย์ นักเขียนหน้าใหม่ โดย สนพ. ระหว่างบรรทัด
- ถนนพระอาทิตย์ โดย อรรถสิทธิ์ สมจารี รวมเรื่องสั้นสมัยใหม่ชั้นดีที่ควรเป็นที่รู้จักมากกว่านี้อีกมาก เจอที่บูธ สนพ. เคล็ดไทย
- นาฏกรรมแห่งชีวิต โดย ประชาคม ลุนาชัย หนึ่งในนักเขียนในดวงใจ เป็นรวมเรื่องสั้นชุดเก่าที่ สนพ. มติชนนำมาพิมพ์ใหม่
นอกจากวรรณกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ก็อยากแนะนำการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง จะเอาอะไรกับผม? โดย มิโนรุ ฟูรูยา (Minoru Furuya) 4 เล่มจบ มีขายที่บูธ สนพ. เดอะเนชั่น พี่แป๊ดเจ้าของ สนพ. ระหว่างบรรทัดกรุณาซื้อเก็บไว้ให้ผู้เขียน เป็นการ์ตูนปรัชญาที่คนรุ่นใหม่น่าจะนำไปใช้เป็นแม่แบบในการดำรงชีวิตได้ อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึง ป๋าอัจฉริยะ ยานางิซาว่า การ์ตูนปรัชญาสนุกๆ อีกเรื่องโดย คาซุมิ ยามาชิตะ (Kazumi Yamashita) เกี่ยวกับวิธีมองโลกของนักเศรษฐศาสตร์วัย 68 ปี ที่ผู้เขียนเพิ่งหาเจอในร้านขายการ์ตูนในชั้นใต้ดินของอาคาร Fortune Tower เมื่อสัปดาห์ก่อน (ขออภัยที่จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว)
เมื่อละสายตาจากกองวรรณกรรม หันมามองกองสารคดีบ้าง ก็พบว่ามีหลายเล่มเหมือนกันที่ทำให้ ‘เป็นปลื้ม’ ที่ได้เป็นเจ้าของ:
- ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง โดย อ. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่จริงพิมพ์นานแล้วแต่ไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลาย สนพ. ฟ้าเดียวกันนำมาวางขายที่บูธ
- ตามรอยพุทธทาสภิกขุ เล่าใหม่หลังวัยสนธยา สนพ. สารคดี และ ต่อนี้ไปเราจะทำจริงแน่วแน่จริงทุกๆ อย่าง บันทึกปี 2475 ของท่านพุทธทาสภิกขุ สนพ. มติชน …ผู้เขียนจะรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปมาก ถ้าไปงานหนังสือแล้วไม่ได้ซื้อหนังสือใหม่ๆ เกี่ยวกับท่านพุทธทาส สองเล่มนี้ก็ดูน่าอ่านเหลือเกิน เสียดายที่ยังปฏิบัติธรรมจริงๆ ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของทฤษฏีที่อ่าน
- หนังสือเกี่ยวกับปรีดี พนมยงค์ หลายเล่ม เช่น ปฐมทัศน์ทางการเมืองของปรีดี พนมยงค์ โดย ทิพวรรณ เจียมธีรสกุล ลดราคาเหลือเล่มละ 10-50 บาทเท่านั้น ที่บูธ สนพ. มูลนิธิเด็กที่อยู่ด้านนอกตัวอาคาร (ตรงทางเดินเข้ามาจากสถานีรถไฟใต้ดิน) ต้องขอขอบคุณ อ.ปกป้อง จันวิทย์ ที่พาไปซื้อ
- ถนนหนังสือ และ ระเบียบเศรษฐกิจระหว่างประเทศกับสงครามการค้า ทั้งสองเล่มโดย ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ซื้อที่บูธ สนพ. คบไฟ
- แสงใต้ในมรสุม โดย วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง สนพ. สารคดี เรื่องราวดีๆ จากภาคใต้ โดยนักเขียนสารคดีรุ่นใหม่ที่ผู้เขียนกำลังติดตามงานเขียนอยู่อย่างขะมักเขม้น หลังจากได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนพิการสองเล่มคือ เต้นรำในความมืด และ เสียงจากโลกเงียบ แล้วรู้สึกประทับใจมากๆ กับเนื้อหาและวิธีเล่าเรื่องของคุณวีระศักดิ์
- ที่เกิดเหตุ โดย วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และ ลม ฟ้า อาหาร โดย โตมร ศุขปรีชา ทั้งสองเล่มโดย สนพ. โอเพ่นบุ๊คส์ หนังสือสารคดี ‘ชั้นขึ้นหิ้ง’ สองเรื่องที่สมควรได้รับรางวัลซีไรต์ด้วยประการทั้งปวง ถ้าเพียงแต่คณะกรรมการซีไรต์จะใจกว้างยอมให้สารคดีเข้าประกวดด้วย
- หลังไมค์ BBC สนพ. พิมพ์บูรพา เล่าเรื่องราวของ BBC ภาคภาษาไทยก่อนถึงกาลอวสาน
- วันที่ถอดหมวก โดย เสกสรรค์ ประเสริฐกุล สนพ. สามัญชน
นอกจากจะได้หนังสือหลายโหลแล้ว ผู้เขียนก็ยังได้ความประทับใจดีๆ กลับมาจากงานหนังสือครั้งนี้ไม่แพ้ครั้งก่อนๆ อาทิเช่น ได้รู้จักกับคุณสว่าง นักเดินทางหนุ่มที่ยืนขายโปสการ์ดสวยๆ อยู่ตรงหน้าบูธนิตยสาร Travel Guide เพื่อเก็บเงินเป็นทุนในการปั่นจักรยานรอบโลก ซึ่งคุณสว่างบอกว่าจะใช้เวลากว่า 3 ปี ผู้เขียนอุดหนุนโปสการ์ดมา 2 ชุด ขายชุดละ 65 บาท ที่ซื้อไม่ใช่เพราะเห็นว่ารูปสวยอย่างเดียว แต่เพราะฉลุอักษรเบรลล์ไว้ทุกใบ คุณสว่างบอกว่าน้องๆ ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดช่วยทำให้ ใครที่อยากติดตามการเดินทางเดี่ยวบนหลังจักรยานของคุณสว่าง เข้าไปดูที่บล็อกของเขาได้ เข้าใจว่าจะออกเดินทางภายในปลายเดือนเมษายนนี้แล้ว ระหว่างนี้ก็ขอเอาใจช่วยให้ขายโปสการ์ดได้เยอะๆ
นอกจากคุณสว่าง ผู้เขียนยังโชคดีที่ได้มีโอกาสรู้จักตัวจริงของคุณสมิทธิ ธนานิธิโชติ อดีตบรรณาธิการภาพของนิตยสารโอเพ่น ที่ปัจจุบันเป็นช่างภาพอิสระ คุณสมิทธิหอบโปสการ์ดสวยๆ หลายโหลมาขายที่ร้านบลูสเกล (W26) บูธเดียวกันกับพี่แป๊ด เจ้าของ สนพ. ระหว่างบรรทัด ที่ช่วยขายหนังสือให้ สนพ. ไต้ฝุ่น ด้วย เลยได้อุดหนุนหนังสือเรื่อง หลวงพระบาง ของคุณสมิทธิ หลังจากที่เห็นมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้ซื้อเสียที และนอกจากนั้น ที่บูธเดียวกันนี้ก็ยังได้เจอตัวจริงและได้ลายเซ็นของคุณโตโต้ องอาจ ชัยชาญชีพ ผู้เขียนการ์ตูนหัวแตงโม ที่ออกมาแล้ว 4 เล่ม เป็น ‘การ์ตูนผู้ใหญ่’ ที่น่าติดตามไม่แพ้ hesheit ซึ่งตอนนี้ดังเป็นพลุแตกในญี่ปุ่นไปแล้ว
ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศงานหนังสือ:
บูธมูลนิธิเด็ก Z28 นอกตัวอาคาร ขายหนังสือ “คุ้ม” ราคาที่สุดในงาน หนังสือดีๆ ลดเหลือเล่มละ 10-50 บาทเท่านั้น ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
บูธ สนพ. “รุ่งวัฒนา ส่งเสริมการอ่าน” S46 ที่เป็นข่าวฮือฮาเมื่อสองวันก่อนว่าขายการ์ตูนโป๊ จนท่านรองนายกฯ ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รุดมาดูด้วยตัวเอง ตอนนี้ถูกรื้อไปแล้ว ชื่อก็ถูกขีดฆ่าออก กลายเป็นบริเวณนั่งพักสำหรับผู้เข้าชมงานแทน อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าการ์ตูนโป๊พวกนี้เป็น “ปัญหา” ที่ทำให้เด็กไทย “ใจแตก” จริงๆ ทำไมญี่ปุ่น ประเทศผู้ผลิตการ์ตูนแบบนี้มาขาย (และมีแบบโจ๋งครึ่มกว่านี้อีกมากในประเทศตัวเอง) ถึงได้เจริญกว่าเรา??
รูปซ้ายคือบูธ สนพ. Museum Press ขายหนังสือนำเที่ยวจังหวัดอยุธยา วัดในกรุงเทพ ฯลฯ สี่สีสวยงาม เนื้อหาน่าอ่าน แต่ไม่ได้ซื้อเพราะหนังสือค่อนข้างแพง เล่มละกว่า 300 บาท แถมกว่าจะเดินไปเจอบูธนี้ก็ซื้อหนังสือท่านพุทธทาสที่บูธมติชน (รูปขวา) ไปหลายตังค์แล้ว เฮ่อ…
ปีนี้ไปรษณีย์ไทยทำเก๋ มีบริการถ่ายรูปทำเป็นแสตมป์ส่วนตัวด้วย 150 บาท ได้แสตมป์ 3 บาท 50 ดวง มีคนไปต่อคิวใช้บริการล้นหลาม
พี่แป๊ดกับเจ้าป่าน คนหนึ่งเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ (เธอชูหนังสือภูฏานของผู้เขียนให้กล้อง น่ารักจริงๆ) อีกคนเป็นคนคอยกวนเจ้าของสำนักพิมพ์ ..ไม่ใช่ จริงๆ แล้วป่านมาขายโปสการ์ดให้พี่สมิทธิ แต่เชื่อว่าถ้าไม่มีป่านคอยกวน.. เอ๊ย! ลับฝีปากให้ พี่แป๊ดก็คงเหงาไปเยอะ 🙂
งานหนังสือยังมีอีก 3 วันนะคะ ผู้เขียนคงกลับไปอีกในเย็นวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ถ้าใครยังไม่ได้ไปแต่ตั้งใจว่าจะไป ขอให้มีความสุขกับการท่องแดนหนังสือ 😀