เมืองใหญ่เมืองนี้
เนื้อร้อง/ทำนอง: เรวัต พุทธินันทน์
เมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของคนเมือง
เห็นความรุ่งเรือง เห็นคนเมืองล้วนมากมาย
เมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของใคร ๆ
ทั้งที่คนมากมาย ดู ๆ ไปเหมือนไร้ผู้คน
มองดูเพลิน ๆ คนเดินมาแล้วเดินไป
คนเดินเป็นใคร ไม่รู้จักไม่ทักทาย
สายตาที่เห็น เห็นเพียงผ่านไป
ไร้คนเข้าใจ ไม่มีใครเห็นความเป็นคน
เมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของใคร ๆ
ทั้งที่คนมากมาย ดู ๆ ไปเหมือนไร้ผู้คน
คนคงลืมไป ลืมมองใจให้เห็นคน
คนจึงลืมคน ใครหมองหม่นก็ทนไป
สายตาที่เห็น เห็นใครต่อใคร
เห็นคนมากมาย แต่ในใจเหมือนไม่มีคน
เมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของใคร ๆ
ทั้งที่คนมากมาย ดู ๆ ไปเหมือนไร้ผู้คน
เมืองดีของคนเมือง เห็นความรุ่งเรือง
เห็นคนเมืองล้วนมากมาย
เมืองใหญ่เมืองนี้ เมืองดีของใคร ๆ
ทั้งที่คนมากมาย ดู ๆ ไปเหมือนไร้ผู้คน
สัจจะสิบประการ
เนื้อร้อง/ทำนอง: คาราบาว
* บ้านเมืองอยู่ในยุคที่คนใฝ่หาประชาธิปไตย
สังคมสุขสดใสคือกิจวัตรอันพึงกระทำ
เขาได้เลือกคุณแล้ว ก็อย่าให้คนเลือกต้องชอกช้ำ
นี้คือสัจธรรม เพียงสิบประการของนักการเมือง
หนึ่ง ไม่พึงละเลยคำพูดที่เอ่ยคำมั่นสัญญา
สอง ไม่ยุ่งการค้ามันอาจนำพากิเลสใส่ตน
สาม มีจิตสำนึกเกษตรกรเจ้าของผลิตผล
สี่ แก้ความยากจน มิเพียงหวังผลคะแนนการเมือง
เมืองไทย พัฒนา สัจจะห้าเน้นการศึกษา
ส่งเสริมภูมิปัญญา ชาวประชาสู่ความนิยม
หก มีจิตสำนึก รับผิดชอบต่อธรรมชาติ
ดินน้ำป่าอากาศ คือสมบัติอันควรหวงแหนกว่าสิ่งใด
(ซ้ำ *)
เจ็ด ไม่อยู่เบื้องหลังบ่อนการพนันค้าประเวณี
แปด ศีลธรรมต้องมีสืบประเพณีวัฒนธรรม
เก้า ก้าวเดินไปหน้า ไม่เห็นแก่ว่า ฝ่ายค้าน ฝ่ายนำ
สิบ รักคุณธรรม กล้าสู้ต่ออำนาจเผด็จการ
** เมืองไทย พัฒนา ด้วยนักการเมืองที่มีสัจจะ
สิบประการนี้คือภาระ ของผู้อาสารับใช้ปวงชน
(ซ้ำ **)
บ้านเมืองอยู่ในยุคที่คนใฝ่หาประชาธิปไตย
สังคมสุขสดใสคือกิจวัตรอันพึงกระทำ
ขอส่งความมั่นใจจากประชาชนล่ะเป็นทุนหนุนนำ
ผลที่ท่านกระทำให้นำสุขขีในปีใหม่เอย
(ซ้ำ **, **)