เสน่ห์ของ folk-country และ folk-rock สมัยใหม่

นอกจาก indie rock (ซึ่งถ้าแปลเป็นไทย ก็อาจเรียกว่า “เพลงร็อคแบบแนวๆ” ละมัง) หนึ่งในประเภทของเพลงที่ผู้เขียนชอบฟังมากที่สุดคือ folk-country และ folk-rock ซึ่งเปรียบเสมือน “แนวเพลงเพื่อชีวิต” ของฝรั่ง เลือก 15 เพลงแนวนี้ที่ชอบมากๆ มาฝาก คลิ้กข้างล่างเพื่อฟังทั้งหมด หรือเพลงใดเพลงหนึ่งก็ได้ บางเพลงในนี้อาจเข้าข่าย alt-country (ย่อมาจาก alternative-country) ด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่สไตล์เพลงร็อคแบบ “กระแสหลัก” เท่าไหร่

_start(‘Female’)

รู้สึกว่า folk-country กับ folk-rock เหมือนกันตรงเนื้อหาของเพลง ที่สืบทอดงานเพลงแบบ folk และ country ดั้งเดิม คือเน้นการเล่าเรื่องราวของชีวิตคนธรรมดา ด้วยภาษาและลีลาของกวี ต่างกันแค่แนวดนตรีที่ใช้ประกอบเนื้อเรื่องเท่านั้น แต่ถึงจะมีคำว่า country อยู่ เพลง folk-country สมัยนี้หลายเพลงก็มีเพียงกลิ่นอายของ country แบบดั้งเดิม (ยุค John Denver) เหลืออยู่เท่านั้น (เลยจั่วหัวบล็อกตอนนี้ว่า “สมัยใหม่”)

ถ้าเปรียบเทียบกับเพลงไทย folk-country ก็คงเทียบได้กับ จรัญ มโนเพ็ชร ในขณะที่ folk-rock ก็อาจเทียบได้กับ คาราบาว หรือถ้าสมัยใหม่หน่อยก็คงเป็น สิบล้อ และอพาร์ตเม้นท์คุณป้า (ชอบวงไทยเหล่านี้มากๆ เสียดายที่คุณจรัญล่วงลับไปแล้ว)

นอกเหนือจากเนื้อหาที่หลากหลายและน่าสนใจ อีกเหตุผลที่ชอบเพลงแนวนี้เพราะนักร้องส่วนใหญ่แต่งเพลงเอง ทำให้รู้สึกว่าเวลาร้องแล้วมีพลัง ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี มีความใกล้ชิดกับเนื้อหามากกว่าถ้าร้องเพลงที่คนอื่นแต่ง อันนี้อาจเป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัวที่คนอื่นอาจไม่เห็นด้วยเลยก็ได้ 🙂


นอกจาก indie rock (ซึ่งถ้าแปลเป็นไทย ก็อาจเรียกว่า “เพลงร็อคแบบแนวๆ” ละมัง) หนึ่งในประเภทของเพลงที่ผู้เขียนชอบฟังมากที่สุดคือ folk-country และ folk-rock ซึ่งเปรียบเสมือน “แนวเพลงเพื่อชีวิต” ของฝรั่ง เลือก 15 เพลงแนวนี้ที่ชอบมากๆ มาฝาก คลิ้กข้างล่างเพื่อฟังทั้งหมด หรือเพลงใดเพลงหนึ่งก็ได้ บางเพลงในนี้อาจเข้าข่าย alt-country (ย่อมาจาก alternative-country) ด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่สไตล์เพลงร็อคแบบ “กระแสหลัก” เท่าไหร่

_start(‘Female’)

รู้สึกว่า folk-country กับ folk-rock เหมือนกันตรงเนื้อหาของเพลง ที่สืบทอดงานเพลงแบบ folk และ country ดั้งเดิม คือเน้นการเล่าเรื่องราวของชีวิตคนธรรมดา ด้วยภาษาและลีลาของกวี ต่างกันแค่แนวดนตรีที่ใช้ประกอบเนื้อเรื่องเท่านั้น แต่ถึงจะมีคำว่า country อยู่ เพลง folk-country สมัยนี้หลายเพลงก็มีเพียงกลิ่นอายของ country แบบดั้งเดิม (ยุค John Denver) เหลืออยู่เท่านั้น (เลยจั่วหัวบล็อกตอนนี้ว่า “สมัยใหม่”)

ถ้าเปรียบเทียบกับเพลงไทย folk-country ก็คงเทียบได้กับ จรัญ มโนเพ็ชร ในขณะที่ folk-rock ก็อาจเทียบได้กับ คาราบาว หรือถ้าสมัยใหม่หน่อยก็คงเป็น สิบล้อ และอพาร์ตเม้นท์คุณป้า (ชอบวงไทยเหล่านี้มากๆ เสียดายที่คุณจรัญล่วงลับไปแล้ว)

นอกเหนือจากเนื้อหาที่หลากหลายและน่าสนใจ อีกเหตุผลที่ชอบเพลงแนวนี้เพราะนักร้องส่วนใหญ่แต่งเพลงเอง ทำให้รู้สึกว่าเวลาร้องแล้วมีพลัง ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี มีความใกล้ชิดกับเนื้อหามากกว่าถ้าร้องเพลงที่คนอื่นแต่ง อันนี้อาจเป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัวที่คนอื่นอาจไม่เห็นด้วยเลยก็ได้ 🙂

เวลาฟังเพลงพวกนี้ชอบฟังเสียงผู้หญิงร้องมากกว่าผู้ชาย ไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะนักร้องแนวนี้ที่เป็นผู้ชายหลายคนเสียงไม่ค่อยดี หรือไม่งั้นผู้หญิงอาจสื่ออารมณ์ในบทเพลงได้มาก (bigger range) กว่าผู้ชาย แต่เรื่องนี้ต้องยกเว้นบางคน เช่น Ryan Adams, Jeff Buckley, Sufjan Stevens, Brendan Benson และ Elliott Smith อืม เยอะเหมือนกันแฮะ ไว้วันหลังเขียนถึงพวกนี้ดีกว่า 😀

เพราะชอบ folk-country กับ folk-rock ตรงเนื้อหา เลยก็อปปี้เนื้อเพลง 2 เพลงในลิสต์วันนี้มาแปะ และพยายามแปลเป็นไทย (ไม่คิดว่าแปลได้ดี แต่อย่างน้อยอาจทำให้เนื้อเรื่องบางตอนกระจ่างขึ้น)


Indigo Girls

Least Complicated
by Indigo Girls

I sit two stories above the street
It’s awful quiet here since love fell asleep
There’s life down below me though
The kids are walking home from school

So long ago when we were taught
That for whatever kind of puzzle you got
You just stick the right formula in
A solution for every fool

I remember the time when I came so close to you
Sent me skipping my class and running from school
And I bought you that ring cause I never was cool
What makes me think I could start clean slated
The hardest to learn was the least complicated

So I just sit up in the house and resist
And not be seen until I cease to exist
A kind of conscientious objection
A kind of dodging the draft

The boy and girl are holding hands on the street
And I don’t want to but I think you just wait
It’s more than just eye to eye
Learn the things I could never apply

I remember the time when I came so close with you
I let everything go it seemed the only truth
And I bought you that ring, it seemed the thing to do

What makes me think I could start clean slated
The hardest to learn was the least complicated
So what makes me think I could start clean slated
The hardest to learn was the least complicated

I’m just a mirror of a mirror of myself
All the things that I do
And the next time I fall I’m gonna have to recall
It isn’t love – it’s only something new

I sit two stories above the street
It’s awful quiet here since love fell asleep
There’s life down below me though
The kids are walking home from school

I remember the time when I came so close with you
Sent me skipping my class and running from school
And I bought you that ring cause I never was cool

What makes me think I could start clean slated
The hardest to learn was the least complicated
So what makes me think I could start clean slated
The hardest to learn was the least complicated
The least complicated
The least complicated

เรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด
โดย อินดิโก้ เกิร์ลส์

ฉันนั่งอยู่บนชั้นสองมองถนน
เงียบเหลือเกินตั้งแต่คนรักหลับไป
แต่ข้างล่างยังดูมีชีวิตชีวา
เด็กๆ กำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน

นานมาแล้วเราถูกสอนว่า
เวลาเจอปริศนาอะไรก็ตาม
แค่ใส่สูตรที่ถูกต้องลงไป
เด็กโง่ทุกคนก็จะได้คำตอบ

ฉันจำได้ตอนที่ฉันใกล้เธอเหลือเกิน
ยอมโดดเรียนและหนีออกจากโรงเรียน
ฉันซื้อแหวนวงนั้นให้เธอ เพราะฉันไม่เคยเป็นคนเท่
อะไรหนอทำให้ฉันคิดว่า ฉันเริ่มใหม่จากศูนย์ได้
เรื่องที่เรียนรู้ยากที่สุด คือเรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด

ดังนั้นฉันจึงนั่งอยู่ในบ้านและขัดขืน
ไม่ให้ใครเห็นจนกว่าฉันจะตาย
เหมือนการคัดค้านอย่างมีสำนึก
เหมือนการหนีเกณฑ์ทหาร

เด็กชายหญิงกำลังจูงมือกันอยู่บนถนน
ฉันไม่อยาก แต่ฉันว่าแค่ต้องรอดู
เพื่อเห็นสิ่งที่มากกว่าการส่งสายตาให้กัน
เพื่อเรียนรู้สิ่งที่ฉันไม่เคยเอาไปใช้ได้

ฉันจำได้ตอนที่ฉันใกล้เธอเหลือเกิน
ยอมปล่อยทุกอย่างเลยตามเลย มันเหมือนเป็นสัจธรรมหนึ่งเดียว
ฉันซื้อแหวนวงนั้นให้เธอ เพราะฉันคิดว่าฉันควรจะทำ

อะไรหนอทำให้ฉันคิดว่า ฉันเริ่มใหม่จากศูนย์ได้
เรื่องที่เรียนรู้ยากที่สุด คือเรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด
แล้วอะไรกันเล่าที่ทำให้ฉันคิดว่า ฉันเริ่มใหม่จากศูนย์ได้
เรื่องที่เรียนรู้ยากที่สุด คือเรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด

ฉันเป็นเพียงกระจกเงาของกระจกเงาของตัวเอง
และทุกสิ่งที่ฉันทำ
ครั้งหน้าเมื่อฉันพลั้งพลาด ฉันจะต้องระลึกให้ได้
ว่ามันไม่ใช่ความรัก – เป็นเพียงอะไรใหม่ๆ เท่านั้น

ฉันนั่งอยู่บนชั้นสองมองถนน
เงียบเหลือเกินตั้งแต่คนรักหลับไป
แต่ข้างล่างยังดูมีชีวิตชีวา
เด็กๆ กำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน

ฉันจำได้ตอนที่ฉันใกล้เธอเหลือเกิน
ยอมโดดเรียนและหนีออกจากโรงเรียน
ฉันซื้อแหวนวงนั้นให้เธอ เพราะฉันไม่เคยเป็นคนเท่

อะไรหนอทำให้ฉันคิดว่า ฉันเริ่มใหม่จากศูนย์ได้
เรื่องที่เรียนรู้ยากที่สุด คือเรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด
อะไรกันเล่าที่ทำให้ฉันคิดว่า ฉันเริ่มใหม่จากศูนย์ได้
เรื่องที่เรียนรู้ยากที่สุด คือเรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด
เรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด
เรื่องที่ซับซ้อนน้อยที่สุด


Star Witness
by Neko Case

My true love drowned
In a dirty old pan of oil
That did run from the block
Of a Falcon sedan 1969
The paper said ’75
There were no survivors
None found alive

Trees break the sidewalk
And the sidewalk skins my knee
There’s glass in my thermos
And blood on my jeans
Nickels and dimes
Of the 4th of July
Roll off in a crooked line
To the chain-link lots
Where the red-tails die
Oh how I’d forgot
What it’s like

(coda) Hey when she sings
When she sings
When she sings like she runs
Moves like she runs
Hey when she moves
When she moves
When she moves like she runs
Moves like she runs
Hey there there’s such dandy wolves
‘Round town tonight
‘Round the town tonight
Hey there there’s such dandy wolves
‘Round town tonight
‘Round the town tonight (ends coda)

Hey pretty baby get high with me
We can go to my sister’s
If you say we’ll watch the baby
The look on your face
Yanks my neck on the chain
And I would do anything
(I would do anything)
To see you again
So I fall in behind

(coda)

Go on, go on and scream and cry
You’re miles from where anyone will find you
This is nothing new
No television crew
They don’t even put on the siren
My nightgown sweeps the pavement
Please
Don’t let him die
Oh how I forgot

พยานปากเอก
โดย เนโกะ เคส

รักแท้ของฉันจมน้ำตาย
ในกระทะน้ำมันคร่ำครึ
ที่ไหลออกมาจากหลังรถ
ฟอลคอนสี่ประตูรุ่นปี 1969
หนังสือพิมพ์ลงว่าปี ’75
ไม่มีผู้รอดชีวิต
เขาไม่เจอใครมีชีวิต

ต้นไม้ตัดตอนฟุตบาท
และฟุตบาทบาดเข่าของฉัน
เศษแก้วลอยในกระติกน้ำร้อน
และรอยเลือดบนกางเกงยีนส์
เหรียญนิคเกิ้ลและไดมส์
ของวันชาติ
กลิ้งเป็นเส้นคดงอ
ไปในรั้วตาข่ายเหล็ก
ที่นกหางแดงตาย
โอ้ ฉันลืมไปแล้ว
ว่ามันเป็นอย่างไร

(สร้อย) เฮ้ ตอนเธอร้องเพลง
ตอนเธอร้องเพลง
ร้องเหมือนตอนเธอวิ่ง
เคลื่อนไหวเหมือนวิ่ง
เฮ้ ตอนเธอเคลื่อนไหว
ตอนเธอเคลื่อนไหว
เธอเคลื่อนไหวเหมือนวิ่ง
เฮ้ มีฝูงหมาป่าท่าผยอง
ตระเวนรอบเมืองคืนนี้
ตระเวนรอบเมืองคืนนี้
เฮ้ มีฝูงหมาป่าท่าผยอง
ตระเวนรอบเมืองคืนนี้
ตระเวนรอบเมืองคืนนี้ (จบสร้อย)

เฮ้ น้องสาว มาสนุกกับพี่ดีกว่า
เราไปบ้านพี่สาวพี่ก็ได้
ถ้าเธอตกลงว่าจะช่วยดูทารก
สีหน้าของเธอ
ทำให้พี่อดใจไม่ไหว
พี่จะทำทุกอย่าง
(พี่จะทำทุกอย่าง)
เพื่อให้เจอเธออีกครั้ง
พี่เลยยอมอยู่ในแถว

(สร้อย)

เอาเลย เชิญแหกปากและร้องไห้
เธออยู่ไกลเกินกว่าที่ใครจะมาเจอ
ไม่มีอะไรใหม่
ไม่มีนักข่าวทีวี
ไม่มีแม้กระทั่งเสียงรถหวอ
ชุดนอนของฉันลากพื้นฟุตบาท
ขอร้องล่ะ
อย่าให้เขาตาย
โอ้ ฉันลืมไปแล้ว.