บันทึก EISENHOWER FELLOWSHIP 2013 (32)

millennium.jpg

(บันทึกก่อนหน้า: ปฏิทินการเดินทางวันที่ 1 & 2วันที่สามวันที่สี่วันที่ห้าวันที่หกวันที่ 7 & 8วันที่เก้าวันที่สิบวันที่สิบเอ็ดวันที่สิบสองวันที่สิบสามวันที่สิบสี่วันที่สิบห้าวันที่สิบหกวันที่สิบเจ็ดวันที่สิบแปดวันที่สิบเก้าวันที่ยี่สิบวันที่ยี่สิบเอ็ดวันที่ยี่สิบสองวันที่ 23 & 24วันที่ยี่สิบห้าวันที่ยี่สิบหกวันที่ยี่สิบเจ็ดวันที่ยี่สิบแปดวันที่ยี่สิบเก้าวันที่ 30 & 31, วันที่สามสิบสอง, วันที่สามสิบสาม, วันที่สามสิบสี่)

วันที่สามสิบห้า

ชิคาโก :  3/11/2013

วันนี้วันอาทิตย์ ฉะนั้นแน่นอนว่าต้องหาเรื่องเที่ยวต่อทั้งวัน 🙂 ตอนเช้าผู้เขียนกับเอลิซาออกไปกินข้าวเช้าที่ร้าน The Bongo Room แพนเค้กชื่อดังในเมือง แต่คิวยาวมากๆ เขาบอกว่าต้องรอเป็นชั่วโมง เราก็เลยเลี่ยงไปกินร้านข้างๆ แทน ซึ่งก็มีคิวเหมือนกัน แต่ไม่ยาวเท่า ยี่สิบนาทีเราก็ได้นั่งที่บาร์ นั่งดูบาร์เทนเดอร์ผสม Bloody Mary หลายสิบแก้วเป็นกับแกล้มอาหารเช้า 🙂

Chicago at sunrise

Breakfast

Bloody Mary

ท้องอิ่มก็ได้เวลาเที่ยว วันนี้เราไป Art Institute of Chicago พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดของเมือง ระหว่างทางเราผ่านต้นไม้สวยๆ และประติมากรรมน่าสนใจหลายชิ้น (พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมือง) ผู้เขียนก็เลยถ่ายรูปสนุกมือไปเลย

Sculpture in the park 1

Sculpture in the Park 2  

ศิลปะในพิพิธภัณฑ์นี้สวยมากจริงๆ แถมมีงานชิ้นเอกของจิตรกรดังนับร้อยชิ้น แยกกันเดินดูกับเอลิซาจนตาแฉะกันไปข้างหนึ่ง

Claude Monet

ฝีมือClaude Monet                                                          

Claude Monet 2

Claude Modet อีกใบ

Henri de Toulouse-Lautrec

Henri de Toulouse-Lautrec

George Seurat

George Seurat                                                

Mark Rothko

Mark Rothko                                                  

Jackson Pollack

Jackson Pollack

Marc Chagall

Marc Chagall                                                  

Andy Warhol

Andy Warhol

American Gothic

รูปที่โด่งดังที่สุดของ Grant Wood ชื่อ American Gothic

ส่วนจัดแสดงศิลปะสมัยใหม่ของพิพิธภัณฑ์นี้ถูกออกแบบให้ “เข้า” กับอาคารเดิมซึ่งเป็นแบบคลาสสิกได้อย่างกลมกลืน ทางเข้าด้านหน้าเป็นแบบคลาสสิก ด้านหลังแบบสมัยใหม่ –

Classic entrance

Modern wing

นิทรรศการที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือ นิทรรศการห้องจำลอง “Thorne Miniature Rooms” คอลเล็กชั่นของเศรษฐินีชื่อดังในชิคาโก เธอสั่งให้ช่างทำจำลองห้องรับแขก ห้องนอน ฯลฯ ของบ้านอังกฤษและอเมริกันในยุคต่างๆ หลายสิบห้อง แต่ละห้องทำขนาด 1/20 ของห้องจริง จำลองทุกอย่างรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ถ้วยโถโอชาม ละเอียดยิบเหมือนของจริงมาก ช่างทอพรม ช่างปั้นเซรามิก และช่างไม้บางคนรับจ้างคุณนายคนนี้เป็นลูกค้าคนเดียวตลอดชีวิต เพราะหมดเวลาจะไปทำอย่างอื่น

Miniature   

Thorne 2

French boudoir

Tudor

ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วเราไปเดินเล่นในสวน Millennium Park ติดกัน เป็นสวนสาธารณะที่ใหม่ที่สุดในเมือง มีประติมากรรมชื่อ Cloud Gate ฝีมือ อานิช คาปูร์ (Anish Kapoor) ประติมากรชาวอินเดีย-อังกฤษชื่อดัง เจ้าประติมากรรมนี้หน้าตาเหมือนถั่ว เลยได้ชื่อเล่นว่า “The Bean” เราเดินไปถ่ายรูปกับมันอย่างสนุกสนาน

Cloud Gate

Fall trees

ที่สวนนี้นอกจากจะมีเจ้าถั่วนี่แล้วยังเป็นที่ตั้งของ Jay Pritzker Pavillion เวทีดนตรีกลางแจ้ง ฝีมือการออกแบบของ แฟรงค์ เกห์รี (Frank Gehry) สถาปนิกชื่อดัง ผู้เขียนว่าเมืองนี้เป็นเวทีประลองกำลังของสถาปนิกเก่งๆ ของโลกก็ว่าได้ ใครเจ๋งจริงต้องมาออกแบบที่นี่ถึงจะได้รับการยอมรับ เหมือนศิลปินพ่นกำแพง คนไหนเจ๋งจริงต้องไปพ่นกำแพงประกาศศักดาที่นิวยอร์ก 🙂

Pritzker Pavillion

ก่อนบ่ายสามเอลิซาแยกตัวไปดูคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกกับอาบิดีน เจ้าชายจากมาเลเซีย ผู้เขียนไม่ประสาเรื่องเพลงคลาสสิกและไม่มีความสนใจใดๆ เลยไปเดินถ่ายรูปเล่นแทน แต่อากาศหนาวยะเยือก ลมก็พัดแรง ถ่ายได้ไม่กี่น้ำก็ยอมแพ้ กลับมานั่งเขียนบันทึกรอเอลิซาที่โรงแรม

ตอนเย็นเราเรียกแท็กซี่ไปกินอาหารเวียดนามที่ร้าน Pho Lily ทางเหนือของเมือง อร่อยมากๆ เลยนะ เอลิซาโปรดปรานอาหารเวียดนามเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ “บุนฉา” (Bun Cha) ก๋วยเตี๋ยวสีขาวผัดเนื้อ ผู้เขียนก็เลยได้อานิสงส์ไปด้วย 🙂

 Bun Cha

Food 2