[This brief entry talks about some cool clock designs that I came across on the Web. Click on each picture for links to product descriptions in English. Of this bunch, my favorites are the Pong clock, and “Coulheur” the color wheel clock.]
ช่วงนี้ยุ่งกับงาน และความพยายามเขียนหนังสือเล่มแรกในชีวิต เลยไม่ค่อยมีเวลาเขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เสร็จพร้อมใส่บล็อกเท่าไหร่ ขอขัดตาทัพด้วยการโชว์ดีไซน์นาฬิกายุคใหม่ ที่อ่านเจอแล้วเกิดความรู้สึก “อยากได้แต่แพงจัง / ไม่มีตังค์ / ยังไม่วางขาย” มาฝากก่อนแล้วกันนะ
อ่านรายละเอียดของนาฬิกาเหล่านี้เพิ่มเติมเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วยการคลิ้กที่รูป ถ้าใครเจอนาฬิกาอะไรแปลกๆ เท่ๆ แบบนี้ เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ 🙂
นาฬิกาทางขวามือที่เห็นนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากเกม Pong (เกมอิเล็กทรอนิคส์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก) ที่สร้างสรรค์ที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา นี่เป็นนาฬิกา Pong ติดผนัง คอมพิวเตอร์เล่นทั้งสองข้าง บอกเวลาโดยการใช้สกอร์ของเกม แปลว่าโปรแกรมให้ผู้เล่นทางซ้ายชนะหนึ่งเกมทุกชั่วโมง และทางขวาชนะหนึ่งเกมทุกๆ 60 วินาที (จะได้เปลี่ยนสกอร์ทางขวาให้แสดงค่านาทีได้) คนคิดคือสตูดิโอออกแบบชาวดัชท์ชื่อ Buro Vormkrijgers
ต่อมาเป็นนาฬิกาแท่งไม้อัดยี่ห้อ Takumi จากญี่ปุ่น (LED woodblock clock) ดูเหมือนแท่งไม้อัดธรรมดาๆ อันหนึ่ง แต่พอเปิดสวิตช์ แถบไฟ LED สีแดงที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อไม้บางๆ จะเรืองแสงขึ้นมาบอกเวลา ดูแล้วให้บรรยากาศแบบเซ็น อย่างน้อยก็ก่อนเห็นราคา… 469 ดอลลาร์สหรัฐ (!!)
ข้างล่างนี้เป็นนาฬิกาดีไซน์เท่อีกอัน ชื่อ “Digital Dali” ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดอันโด่งดังของจิตรกรชาวสเปน Salvador Dali ชื่อ “The Persistence of Memory” (ความดื้อรั้นของความทรงจำ) ออกแบบโดย Ross McBride ใช้ซิลิโคนทำตัวนาฬิกา จะได้อ่อนยวบได้อย่างในรูป แถมยังหลบสายไฟไว้ข้างหลัง จะได้ซ่อนง่ายๆ เวลาวางบนโต๊ะ
[This brief entry talks about some cool clock designs that I came across on the Web. Click on each picture for links to product descriptions in English. Of this bunch, my favorites are the Pong clock, and “Coulheur” the color wheel clock.]
ช่วงนี้ยุ่งกับงาน และความพยายามเขียนหนังสือเล่มแรกในชีวิต เลยไม่ค่อยมีเวลาเขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เสร็จพร้อมใส่บล็อกเท่าไหร่ ขอขัดตาทัพด้วยการโชว์ดีไซน์นาฬิกายุคใหม่ ที่อ่านเจอแล้วเกิดความรู้สึก “อยากได้แต่แพงจัง / ไม่มีตังค์ / ยังไม่วางขาย” มาฝากก่อนแล้วกันนะ
อ่านรายละเอียดของนาฬิกาเหล่านี้เพิ่มเติมเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วยการคลิ้กที่รูป ถ้าใครเจอนาฬิกาอะไรแปลกๆ เท่ๆ แบบนี้ เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ 🙂
นาฬิกาทางขวามือที่เห็นนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากเกม Pong (เกมอิเล็กทรอนิคส์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก) ที่สร้างสรรค์ที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา นี่เป็นนาฬิกา Pong ติดผนัง คอมพิวเตอร์เล่นทั้งสองข้าง บอกเวลาโดยการใช้สกอร์ของเกม แปลว่าโปรแกรมให้ผู้เล่นทางซ้ายชนะหนึ่งเกมทุกชั่วโมง และทางขวาชนะหนึ่งเกมทุกๆ 60 วินาที (จะได้เปลี่ยนสกอร์ทางขวาให้แสดงค่านาทีได้) คนคิดคือสตูดิโอออกแบบชาวดัชท์ชื่อ Buro Vormkrijgers
ต่อมาเป็นนาฬิกาแท่งไม้อัดยี่ห้อ Takumi จากญี่ปุ่น (LED woodblock clock) ดูเหมือนแท่งไม้อัดธรรมดาๆ อันหนึ่ง แต่พอเปิดสวิตช์ แถบไฟ LED สีแดงที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อไม้บางๆ จะเรืองแสงขึ้นมาบอกเวลา ดูแล้วให้บรรยากาศแบบเซ็น อย่างน้อยก็ก่อนเห็นราคา… 469 ดอลลาร์สหรัฐ (!!)
ข้างล่างนี้เป็นนาฬิกาดีไซน์เท่อีกอัน ชื่อ “Digital Dali” ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดอันโด่งดังของจิตรกรชาวสเปน Salvador Dali ชื่อ “The Persistence of Memory” (ความดื้อรั้นของความทรงจำ) ออกแบบโดย Ross McBride ใช้ซิลิโคนทำตัวนาฬิกา จะได้อ่อนยวบได้อย่างในรูป แถมยังหลบสายไฟไว้ข้างหลัง จะได้ซ่อนง่ายๆ เวลาวางบนโต๊ะ
หนึ่งในนาฬิกาไฮเทคที่สุดในปัจจุบัน หนีไม่พ้นนาฬิกากระดาษ ใช้กระดาษยุคใหม่ที่ดูคล้าย Electronic paper (ย่อว่า e-Paper คือกระดาษอิเล็กทรอนิคส์สร้างจากสารเคมีที่นำไฟฟ้า ทำให้สามารถลบและเขียนใหม่ได้) นาฬิกานี้ทำจากกระดาษธรรมดาที่ฉาบด้วยสารเคมีแบบ heat-sensitive ใช้ความร้อนจากแผงไฟ LED ข้างหลังเป็นตัวจุดเวลาให้ปรากฏบนกระดาษ ออกแบบโดย Hannes Koch
ทำไมนาฬิกาต้องเป็นตัวเลขหรือหน้าปัดเสมอไป? นาฬิกาคอนเซ็ปท์ดีแต่ดีไซน์ดูธรรมดาข้างล่างชื่อ นาฬิกาคำพูด (word clock) จากนักออกแบบชื่อ Muller van Dongen บอกเวลาด้วยประโยคบอกเล่า เช่น ถ้าเวลาเท่ากับ 11:05 คุณจะอ่านเวลาได้ว่า “It’s five minutes past eleven” หรือถ้าเป็น 10:59 นาฬิกาจะบอกว่า “It’s about eleven”
ปิดท้ายด้วยนาฬิกาชื่อ “Coulheur” จากนักออกแบบ Bettina Dadon ชาวฝรั่งเศส (ชื่อนาฬิกาเป็นการสมาสคำสองคำในภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่า “สี” และ “เวลา”) บอกเวลาจากสีต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากวงโคจรของวงล้อสีสามวง ดีไซน์เริ่มจากแม่สีสามสีก่อน แล้วซอยมันลงเป็นส่วนต่างๆ ตามหลักการผสมสี วาดลงบนแผ่นใสสามแผ่น ผลคือนาฬิกาสวยงามและน่าทึ่ง ที่ผนวกผสาน “ศิลปะ” และ “ประโยชน์การใช้สอย” ได้อย่างลงตัวน่าชมเชย (แม้จะดูยากไปหน่อย เพราะมีวงล้อสีสามวง เลยดูเหมือนมีเข็มนาฬิกาเกินมาหนึ่งอัน แต่คงต้องใช้สามวงจริงๆ เพราะแม่สีของแสงมีสามสีไม่ใช่สอง)
